รีวิว 7 อาหารกระรอก ที่ดีสุดในปี 2023

Table of Contents

อาหารกระรอก ที่ดีสุด

รีวิว 7 อาหารกระรอก ที่ดีสุดในปี 2023 กระรอกเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีลักษณะคล้ายหนูปลายขาว มีหูยาวและหางสั้นๆ สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไปได้ เช่น ป่า, ทะเล, และที่ราบสูง. การเลี้ยงกระรอกเป็นเรื่องที่น่าสนใจและต้องการความรอบรู้และความรับผิดชอบในการดูแลตลอดเวลาเนื่องจากกระรอกเป็นสัตว์ที่ต้องการการดูแลอย่างพิถีพิถัน

  • อาหาร กระรอกเป็นสัตว์กินพืชและสัตว์ อาหารที่เหมาะสมสำหรับกระรอกคือ ผักใบเขียว เช่น ผักกาดหอม, ผักกาดแก้ว, ผักกูด, ผักกาดขาว และผักกาดแดง และผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล, กล้วย, สับปะรด และลูกแพร์ นอกจากนี้ยังต้องให้แมวน้ำหรือน้ำเปล่าเพียงพอตลอดเวลา
  • ที่อยู่อาศัย กระรอกเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่ในที่มีเงา มีอากาศร่มรื่นและไม่มีเสียงดังมาก เช่น ใต้ต้นไม้ หรือในร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ๆ เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องมีที่นอนที่อบอุ่นและนุ่มสบาย เช่น สกัดใบตอง, ฟางข้าวหรือกระดาษขนาดใหญ่

กระรอกเป็นสัตว์ที่มีอาการที่แตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศ การสังเกตุอาการของกระรอกจึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลตัวเลี้ยงให้เป็นอย่างดี อาการที่สังเกตุได้ปกติของกระรอกมีดังนี้

  • การกัดเซลล์ในกรงเลี้ยง
  • การเคลื่อนไหวต่างๆ อาจจะวิ่งขึ้นลงบันไดหรือกระโดดข้ามได้
  • การเคี้ยวอาหารอย่างสม่ำเสมอ
  • การดูแลสัตว์ตัวเล็กและการเลี้ยงลูกด้วยนม

วิธีเตรียมตัวก่อนนำกระรอกมาเลี้ยงในบ้าน

เก็บสารเคมีหรือสิ่งของอันตรายให้มิดชิด รวมทั้งขนมแปรรูปที่ไม่ควรให้กระรอกกิน แยกกระรอกจากสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ในบ้าน จนกว่ากระรอกจะคุ้นเคยกับบ้านเสียก่อน คอยสอดส่องดูแลขณะที่กระรอกอยู่รวมกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ไม่ปล่อยพวกมันอยู่กันตามลำพัง

นอกจากนี้ อาการที่สังเกตุได้ไม่ปกติของกระรอกมีดังนี้

  • การลำเอียงหรือการหดตัวเป็นเวลานาน
  • การกินอาหารไม่เพียงพอหรือไม่รับประทานอาหาร
  • การสั่งสะเทือนหรือสั่นเป็นเวลานาน
  • การหายใจลำบากหรือหายใจเหม็นเลว
  • การมีอาการปวดบวมหรือแดงบริเวณเข่าหรือข้อเท้า

หากพบว่ากระรอกมีอาการไม่ปกติ ควรนำไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วเพื่อรักษาอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพและการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้กระรอกมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขในการเลี้ยงด้วยนะคะ

ควรรู้ก่อนเลี้ยงกระรอก

1.สายพันธุ์กระรอกที่นิยมเลี้ยง

รูปภาพจาก wikipedia

กระรอกนั้นมีอยู่ทั้งหมดหลายสายพันธุ์ที่นิยมนำมาเลี้ยง มีตั้งแต่ราคาถูกๆเพียงหลักร้อยถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และขนาด สายพันธุ์กระรอกที่นิยมเลี้ยงมากที่สุด ได้แก่ “กระรอกสวน” ลักษณะเด่นของกระรอกสายพันธุ์นี้ คือมีนิสัยดุน้อยกว่ากระรอกสายพันธุ์อื่นที่ชอบกัดหรือข่วน เมื่อถูกกวนหรือแหย่ให้รำคาญได้

2.การเลี้ยงกระรอกที่เหมาะสมของอายุ

รุปภาพจาก pantip

หลักการเลี้ยงกระรอกควรนำมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็กๆอายุของกระรอกควรเริ่มตั้งแต่ 3 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 1 เดือน จะดีมากเพราะการเลี้ยงกระรอกตั้งแต่เล็กๆ มีโอกาสที่จะเลี้ยงให้เชื่องได้ง่ายกว่า ที่นํามาเลี้ยงตอนโตแล้วและทำให้คุ้นเคยกับคนเลี้ยงและไม่กัดเมื่อโกรธหรือตกใจ ข้อควรระวัง ก็คือ ไม่ควรเลี้ยงกระรอกที่ยังไม่ลืมตาเพราะอาจตายหรือสุขภาพไม่แข็งแรงเป็นกระรอกขี้โรคได้

3.ที่พักอาศัยของกระรอก

ที่นอนของกระรอก

คนส่วนใหญ่มักจะนำกระรอกมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็กๆด้วยเหตุผลต้องการให้กระรอกเชื่องและคุ้นเคยกับคนเลี้ยงให้มากที่สุด กระรอกน้อยจึงต้องการความอบอุ่นมากกว่ากระรอกที่โตแล้ว ที่อยู่ของกระรอกควรมีอากาศที่ปลอดโปร่ง มีลมพัด ควรมีหลอดไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ลูกกระรอก มีเศษผ้าเพื่อให้ลูกกระรอกซุกตัวเพื่อเพิ่มความอบอุ่นและรู้สึกปลอดภัย ทําให้กระรอกรู้สึกเคยชิน

4.อาหารกระรอก

อาหารของกระรอก

การที่นําลูกกระรอกที่ยังเล็กๆและยังไม่หย่านมแม่ ควรเลี้ยงด้วยนมผงสำหรับเด็กแรกเกิด นมสำหรับเลี้ยงสุนัข หรือเลี้ยงด้วยนมถั่วเหลืองได้บ้าง เมื่ออายุประมาณ 45 วัน ก็สามารถให้กินผักผลไม้ เช่น ถั่ว คะน้า แตงกวา หรือผักผลไม้อื่นๆเพราะกระรอกกินได้เกือบทุกอย่าง

5.การดูแลสุขภาพและโรคของกระรอก

ควรที่จะดูแลสุขภาพหรือรักษาความสะอาดให้กระรอกน้อยประจํา สามารถอาบน้ำให้ได้แต่ควรใช้น้ำเปล่าหรือเช็ดตัวแทนการอาบน้ำเพื่อทำให้ขนกระรอกแห้งเร็ว ป้องกันปอดบวม ส่วนโรคและการเจ็บป่วยของลูกกระรอกอาการที่พบคือ หายใจลำบาก หอบ มีน้ำมูก ไอ เบื่ออาหาร ซึ่งเกิดจากอากาศเย็นเกินไป การอาบน้ำ ความเครียดจากการย้ายที่อยู่ และการเปลี่ยนอาหาร

เทคนิคการเลี้ยงกระรอกให้เชื่อง

สำหรับหลายๆคนอาจชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์จำพวกสัตว์ฟันแทะอย่างหนูแฮมเตอร์หนูแกสบี้กระรอกสัตว์เหล่านี้มีลักษณะนิสัยที่คล้ายกันและแน่นอนว่าลักษณะการเลี้ยงดูก็จะต้องคล้ายกันแต่สิ่งที่สัตว์เหล่านี้ ซึ่งมีเหมือนกันก็คือความฉลาดและความเชื่องในวันนี้ เราจะมาเอาใจเพื่อนๆที่ชื่นชอบการเลี้ยงกระรอกแต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้กระรอกเชื่องเมื่ออยู่ร่วมกับคนเรามีเทคนิคเล็กๆน้อยๆมาแนะนำทุกคนจะมีอะไรบ้างตามไปดูกันเลย

การเลี้ยงกระรอกให้เชื่องเราต้องเข้าใจในตัวกระรอกก่อน ลักษณะนิสัยของกระรอกโดยทั่วไปที่เราเห็น กระรอกก็เป็นสัตว์ป่าชนิดหนึ่ง เพราะฉะนั้นการที่จะเลี้ยงกระรอกให้เชื่องด้วยระยะเวลาสั้น ๆ อาจจะเป็นไปได้ยาก เพราะสัตว์ป่าจะค่อนข้างมีความฉลาด และตื่นตัวสูง หากต้องการเลี้ยงให้เชื่องแนะนำว่าควรจะนำน้องมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเป็นลูกกระรอก เพื่อสร้างความใกล้ชิดและสนิทสนมให้กับเจ้ากระรอก เพื่อให้ง่ายต่อการเลี้ยงให้เชื่องในอนาคต

การเลี้ยงกระรอกให้เชื่อง

วิธีเริ่มต้นเลยเหมือนที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้นก็คือ การนำน้องมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเป็นลูกกระรอก และทำการให้อาหารป้อนอาหารด้วยมือตัวเองทุกมื้อ ในเวลาเท่าเดิมในทุกวันเมื่อทำบ่อยครั้งจนชิน น้องจะเกิดความเคยชินที่ว่าได้กินอาหารเวลานี้ ในสถานที่นี้ และในลักษณะนี้กับเจ้าของของน้องเอง และวิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้น้องกระรอกเชื่องได้ไวมาก เพื่อน ๆ ต้องเอาไปลองดูกันแล้วล่ะ

การเลี้ยงกระรอกให้เชื่องด้วยกลิ่นของเจ้าของ

ด้วยสัญชาตญาณแล้ว กระรอกจะเป็นสัตว์ป่ามักจะมีจมูกที่ดมกลิ่นที่ดี เพราะฉะนั้นหากเจ้าของอยากให้น้องรู้สึกเชื่องและรู้สึกคุ้นเคย ควรที่จะใช้กลิ่นในห้องที่สม่ำเสมอ เพื่อสร้างความคุ้นเคย อย่างเช่น จำพวกกลิ่นเสื้อผ้า กลิ่นตัวของเจ้าของ โดยนำเสื้อผ้าที่มีกลิ่นตัวของเราไปวางไว้ในกรงเพื่อให้น้องได้จำกลิ่นได้ และน้องจะรู้สึกปลอดภัย ไม่เกิดความเครียดเมื่อมีกลิ่นของเจ้าของอยู่ใกล้บริเวณอาศัย

การเล่นกับกระรอก

เนื่องจากกระรอกเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างซุกซน ชอบปีนป่าย และเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว เพราะฉะนั้นเราควรที่จะหาเวลาว่างมาเล่นกับน้องบ้าง เพื่อสร้างความคุ้นเคย น้องจะได้ไม่เหงาซึม อย่างเช่น การให้น้องขึ้นมาไปที่แขน ขึ้นมาวิ่งเล่นที่หัว ก็จะสร้างความเคยชินให้น้องได้อย่างมากเลยเมื่อทำประจำทุกวัน แถมยังทำให้น้องเชื่องกับคนได้ไวมากด้วย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งในวิธีการเลี้ยงกระรอกให้เชื่องที่สำคัญอีกวิธีหนึ่งเลยทีเดียว

จบกันไปแล้วกับวิธีการเลี้ยงกระรอกให้เชื่องสำหรับเพื่อนคนไหนที่กลัวว่าเมื่อนำน้องมาเลี้ยงแล้วน้องจะไม่เชื่องลองมาศึกษาวิธีหรือเทคนิคง่ายๆในการทำให้น้องเชื่องได้และอย่าลืมดูแลเอาใจใส่สร้างความสนิทสนมความเคยชินเพื่อจะทำให้น้องเชื่องได้ง่ายขึ้น

7 อาหารกระรอก สําหรับวัยแรกเกิดจนโต ดีที่สุด

1.อาหารกระรอก ยี่ห้อ Petheng

รูปภาพจาก shopee.co.th

ผิวหนังและขน,บรรเทาอาการภูมิแพ้,ต้านเชื้อรา,เพิ่มความอยากอาหาร,สุขภาพสมอง,สงบเงียบ,การดูแลทันตกรรมและลมหายใจ,การสนับสนุนผู้ป่วยโรคเบาหวาน,สุขภาพทางเดินอาหาร,บำรุงสายตา,ดูแลหัวใจ,รองรับสะโพกและข้อ,ระบบภูมิคุ้มกัน,แก้คันและรอยแดง,วิตามินและแร่ธาตุ,การจัดการน้ำหนัก

ประเภทอาหาร
ปริมาณ180 กรัม
เหมาะสำหรับอายุ 4 เดือนขึ้นไป
อายุการเก็บรักษา6 เดือน

2.อาหารกระรอก ยี่ห้อ Versele Laga

รูปภาพจาก shopee.co.th

เราคัดสรรแต่ของโปรดหนู แฮมสเตอร์ และกระรอก ผลไม้หวานฉ่ำจากธรรมชาติ ทั้ง กล้วย สับปะรด และส้ม ที่ให้รสหวานตามธรรมชาติแล้วโรยเกล็ดความอร่อยสูตรเฉพาะของเวอร์เซเล-ลากา ที่อุดมด้วยธัญพืชพันธุ์ดีนานาชนิดเราพิถีพิถันใช้เวลาในการอบ เพื่อให้หอมกรุ่นจากเตา กรุบกรอบจนแทะเพลินเกินห้ามใจ

ช่วยให้กระต่าย แก๊สบี้ หนูแฮมสเตอร์ ชินชิล่า กระรอก ได้เสริมทักษะการแทะ ช่วยขัดเหลาฟันตามธรรมชาติ ทั้งหอม อร่อย และ สนุก ฟินสุดๆ หอม อร่อย จนหยุดไม่ได้

ประเภทอาหารเสริม
ปริมาณ110 กรัม
เหมาะสำหรับ4 เดือน
อายุการเก็บรักษา6 เดือน

3.อาหารกระรอก ยี่ห้อ Deli Nature

รูปภาพจาก shopee.co.th

หนูแฮมสเตอร์ กระรอก กระแต ชูก้าไรเดอร์ แพรี่ด็อก สามารถกินได้ค่ะ เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญและมีประโยชน์อย่างมากสำหรับสัตว์เลี้ยง

สูตรแห้ง ผสมน้ำผึ้ง หอม กรุบกรอบ ด้วยน้ำผึ้งจากธรรมชาติ อร่อยแบบเต็มๆ เน้นๆ ประโยชน์ดีๆ จากไข่และวัตถุดิบจากธรรมชาติ

ประเภทอาหาร
ปริมาณแบ่งขาย 200-500 กรัม
เหมาะสำหรับ4 เดือน
อายุการเก็บรักษา6 เดือน

4.อาหารกระรอก ยี่ห้อ Khunnoo Hamster

รูปภาพจาก shopee.co.th

เสริมโปรตีน ขนาดกะทัดรัด ไร้สารเติมแต่ง เก็บรักษาได้ยาวนาน

แมลงถือเป็นแหล่งอาหารจากธรรมชาติที่ดีที่สุดของกระรอก ซึ่งทางยี่ห้อ Khunnoo Hamster มาพร้อมให้เลือกชนิดของแมลงถึง 5 ชนิด ได้แก่ จิ้งหรีดอบแห้ง, สะดิ้ง, ดักแด้, หนอน และด้วงสาคูที่ผ่านการคัดสรรคุณภาพมาอย่างดี พร้อมทั้งผ่ากรรมวิธีอบแห้ง ที่สำคัญ ไม่มีสารปรุงรสใด ๆ ทำให้กระรอกได้รับโปรตีนและไขมันเน้น ๆ

5.อาหารกระรอก ยี่ห้อ Jolly Pets

รูปภาพจาก Lazada.co.th
Jolly – Dried Mealworms หนอนนกอบแห้ง
  • อาหารเสริมโปรตีนสูง ผ่านกรรมวิธีอบแห้งที่ได้มาตรฐาน 
  • อบแห้งโดยไม่มีความชื้นตกค้าง ซึ่งเป็นบ่อเกิดของการสะสมของแบคทีเรียและแหล่งเชื้อโรค 
  • เหมาะสำหรับเป็นขนมหรือรางวัลให้กับสัตว์เลี้ยง เช่น ชูการ์ไกลเดอร์, กระรอก, เม่น, แพรีด็อก และสัตว์เลื้อยคลาน เป็นต้น

6.อาหารกระรอก ยี่ห้อ Paradisepet 

รูปภาพจาก shopee.co.th
มีสารอาหารที่จำเป็น เพิ่มรสชาติมื้ออาหาร ลดกลิ่นตัว ละลายง่าย
  • จะเป็นอาหารสำหรับชูการ์ไรเดอร์ แต่ยังมีโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับกระรอก
  • ให้คุณเลือกสรร ถึง 6 สูตร ได้แก่ Sugar Glider Milk อาหารเสริมทดแทนนมแม่และบำรุงช่วงตั้งท้อง
  • ที่ช่วยเพิ่มความอร่อยและเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
  • แบ่งออกเป็นบำรุงร่างกายกระรอกอายุมากกว่า 4 เดือนและเสริมสร้างการเจริญเติบโตในอายุต่ำกว่า 4 เดือน

7.อาหารกระรอก ยี่ห้อ Exotic Nutrition

รูปภาพจาก Lazada.co.th
ผลไม้อบแห้ง ขนม สัตว์เล็ก ชูการ์ไกลเดอร์ กระรอก กระต่าย แพรี่ด็อก เม่น แฮมเตอร์
  • ประกอบด้วย มะละกอ และสัปปะรด มีรสชาติที่สัตว์เลี้ยงชื่นชอบ
  • ผ่านกรรมวิธีอบแห้งที่ได้มาตรฐาน เพื่อรักษาคุณค่าทางอาหารไว้สูงสุด
  • มีลักษณะเป็นลูกเต๋าขนาดเหมาะมือและปากสำหรับสัตว์เล็ก
  • วิธีใช้: ไม่ใช่อาหารหลัก ให้ได้ 2-3 ครั้ง/อาทิตย์

สิ่งที่ควรระวังในการเลี้ยงกระรอก

กระรอกเป็นสัตว์เลี้ยงที่ถูกนำมาจากธรรมชาติตั้งแต่เล็กๆและยังไม่หย่านม ทำให้มีปัญหาในเรื่องสุขภาพเพราะขาดภูมิคุ้มกันเนื่องจากไม่ได้กินนมแม่ โรคและอาการเจ็บป่วยของกระรอกที่พบได้บ่อย ก็คือ ท้องเสีย ปอดบวม แพ้อาหารหรือน มทำให้มีอาการท้องอืด และเป็นหวัด สาเหตุมักเกิดจากอากาศเย็นเกินไป ความเครียดจากการย้ายที่อยู่ หรือการเปลี่ยนอาหารกระรอกก็ทำให้กระรอกมีอาการเจ็บป่วยได้

วิธีดูแลสุขภาพของกระรอก ต้องเริ่มตั้งแต่การกินนมและนมที่เหมาะสำหรับกระรอกควรเป็นนมแพะ นมผงสำหรับเด็กแรกเกิด และอาจให้เป็นนมถั่วเหลืองได้ แต่ลูกกระรอกบางตัวที่กินนมเหล่านี้ก็อาจมีอาการท้องอืดหรือถ่ายท้อง คนเลี้ยงต้องหมั่นสังเกตและให้ลูกกระรอกกินนมทีละชนิด ไม่ควรปรับเปลี่ยนนมทันที ส่วนนมที่ควรหลีกเลี่ยงหรือไม่ให้กินเลยได้แก่นมวัว

กระรอกจากธรรมชาติจะอาศัยนอนและทำรังตามโพรงต้นไม้ หรือในลูกมะพร้าว เพราะให้ความอบอุ่นได้ดี เมื่อนำลูกกระรอกเล็กๆมาเลี้ยงทำให้ต้องการความอบอุ่นมากกว่ากระรอกโต การเลี้ยงควรทำกรงให้ลูกกระรอกอยู่และนำผ้าวางไว้มุมใดมุมหนึ่งให้ลูกกระรอกได้ซุกตัวเป็นการเพิ่มความอบอุ่นและทำให้รู้สึกปลอดภัยจากสัตว์อื่น